” เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ
เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม “
ประวัติและอาณาเขต
ร่องรอยของผู้คนในอดีตในเขตจังหวัดเพชรบุรี ปรากฏหลักฐานในรูปของโบราณวัตถุ โบราณสถาน แหล่งที่อยู่อาศัยหลงเหลืออยู่ทั่วไปตั้งแต่ในช่วงที่เป็นชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์พบหลักฐาน แถบภูเขาทางตะวันตกในเขตอำเภอ ท่ายาง จวบจนสังคมพัฒนาขึ้นภายใต้วัฒนธรรมแบบทวารวดี ก็พบร่องรอยของชุมชนเหล่านี้ในหลายพื้นที่ เช่น กลุ่มผลิตรูปเคารพหนองปรง ในเขตอำเภอเขาย้อย กลุ่มบ้านหนองพระ เนินโพธิ์ใหญ่ เนินดินแดง วัดป่าแป้นในเขต อำเภอบ้านลาด กลุ่มเขากระจิว ในเขตอำเภอท่ายาง กลุ่มทุ่งเศรษฐี ในเขตอำเภอชะอำ แต่ในลุ่มแม่น้ำเพชรบุรีก็ยังไม่พบ หลักฐานของเมืองที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบแบบเมืองทวารวดีที่ พบทั่วไปใน ลุ่มแม่น้ำสำคัญอื่น ๆ ในแถบภาคกลางของ ไทยแต่ก็พบหลักฐานโบราณวัตถุแบบทวารวดี คือธรรมจักรหินในบริเวณชุมชนเก่าทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเพชรบุรี
เพชรบุรีในวัฒนธรรมเขมรโบราณ เมื่อชุมชนในแถบลุ่มแม่น้ำเพชรบุรีได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมเขมรโบราณในช่วงเวลานี้น่าจะมีการพัฒนาขึ้นในระดับหนึ่ง คงมีการสร้างเมืองในรูปแบบของวัฒนธรรมเขมร โบราณเป็นรูปสี่เหลี่ยมขึ้นที่ทางฝั่งตะวันออก ของแม่น้ำเพชรบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลช่องสะแก อำเภอเมืองเพชรบุรี) ผลจากการศึกษาจากภาพถ่ายทางอากาศ (โดยผ่องศรี วนาสิน และทิวา ศุภจรรยา) พบว่าบริเวณเมืองเพชรบุรีมีร่องรอยของแนวคูเมืองและกำแพงเมือง ที่มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยม ที่ใกล้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมากกว่าสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวของแนวคูเมืองกำแพงเมืองแต่ละด้านกว่า 1 กิโลเมตร เมืองนี้ใช้แม่น้ำเพชรบุรีเป็นคูเมืองด้านทิศตะวันตก ลักษณะของผังเมืองที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมแบบสม่ำเสมอเป็นเมือง ที่มีอายุหลังสมัยทวารวดีมักพบมากในช่วงที่ได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมเขมรโบราณลงมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น จึงอาจกล่าวได้ว่าร่องรอยของแนวคูเมืองกำแพงเมืองที่หลงเหลืออยู่นี้ เป็นร่องรอยของเมืองตั้งแต่ในช่วงที่ได้รับ อิทธิพลวัฒนธรรมเขมร หลักฐานที่เป็นเครื่องสนับสนุนความเป็นบ้านเป็นเมืองในช่วงเวลานี้คือ โบราณสถานที่วัด กำแพงแลง อันได้แก่ปรางค์ศิลาแลง 5 องค์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและรูปเคารพที่ได้จากบริเวณนี้ล้วนมีอิทธิพล ศิลปเขมรโบราณแบบบายน ที่มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 18 – 19 และถ้าหากเชื่อว่าเมืองนี้คือหนึ่งในเมืองที่ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ทรงประดิษฐานพระชัยพุทธมหานาถไว้ เมืองนี้ก็คือเมือง ศรีชัยวัชรบุรี
เพชรบุรีในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินจนถึงแผ่นดินพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ไทยยังคงทำสงครามกับพม่ามาโดยตลอดซึ่ง เจ้าเมืองและชาวเมืองเพชรบุรีก็ยังคงมีส่วนในการทำสงครามดังกล่าว จนเมื่อพม่าตกเป็นของอังกฤษบทบาทของเมืองเพชรบุรีที่มีต่อเมืองหลวงและราชสำนักจึงค่อยๆ เปลี่ยนไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรีตั้งแต่ครั้ง ยังทรงผนวชอยู่เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว โปรดให้สร้างพระราชวัง วัดและพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นบนเขาเตี้ย ๆ ใกล้กับตัวเมืองและพระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดให้สร้างพระราชวังอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบุรี คือ “พระรามราชนิเวศน์” หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า “วังบ้านปืน” และด้วยความเชื่อที่ว่าอากาศชายทะเลและ น้ำทะเลอาจบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าให้สร้างพระราชวัง “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ขึ้นที่ชายหาดชะอำเพื่อใช้เป็นที่ประทับรักษาพระองค์
อาณาเขต
จังหวัดเพชรบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 ระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 6,225.138 ตารางกิโลเมตรหรือ 3,890,711.20 ไร่ โดยมีส่วนที่กว้างที่สุดวัดได้ 103 กิโลเมตรจากทิศตะวันออก-ตะวันตกและส่วนที่ยาวที่สุดวัดได้ 80 กิโลเมตรจากทิศเหนือ-ใต้ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดและประเทศใกล้เคียงต่อไปนี้
- ด้านเหนือ ติดกับอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี และอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
- ด้านตะวันออก ติดชายฝั่งอ่าวไทย น่านน้ำติดต่อตรงข้ามกับน่านน้ำจังหวัดชลบุรี ด้านทิศใต้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้านทิศเหนือ น่านน้ำจังหวัดสมุทรสงคราม น่านน้ำจังหวัดสมุทรสาคร น่านน้ำกรุงเทพมหานคร และน่านน้ำจังหวัดสมุทรปราการ
- ด้านใต้ ติดกับอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ด้านตะวันตก ติดกับเขตตะนาวศรีของประเทศพม่า
ดาวน์โหลดโมบายแอพ Go! เพชรบุรี
แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี
หมวดหมู่สถานที่น่าสนใจในจังหวัดเพชรบุรี
ทริปท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี
โปรแกรมท่องเที่ยวแนะนำ
เที่ยวเพชรบุรี 2 วัน 1 คืน
วันที่ 1
เที่ยววันธรรมดา ไม่ธรรมดาทริปนี้ เราจะชวนเพื่อนๆ ออกเดินทางไปเที่ยวเมืองริมทะเลใกล้กรุงฯ กันที่ จ.เพชรบุรี เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย พูดได้ว่า ครบเครื่องเมืองน่าเที่ยวจริงๆ ถ้าอยากรู้ว่ามีสถานที่ไหนน่าสนใจ มาตามพวกเราไปเที่ยวด้วยกัน
08.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยัง จ.เพชรบุรี โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือธนบุรี-ปากท่อ) เลี้ยวซ้ายเข้าคลองโคน ตรงปั๊ม ปตท. กม.72 แยกเข้าคลองโคน ไปตามเส้นทางจะข้ามไปสะพานบางตะบูน
09.30 น. เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวบางตะบูน โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านจะทำอาชีพประมงพื้นบ้าน ที่บางตะบูนแห่งนี้ถือเป็นทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงมีพันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิดอาศัยอยู่มากมาย
หลังจากนั่งเรือชมวิถีชีวิตชาวประมงแล้ว เราก็ถึงฟาร์มหอยแครง หอยแมลงภู่และหอยนางรมขนาดใหญ่ของชาวบางตะบูน ณ ปากอ่าวบางตะบูน ที่ถือเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ถ้าหากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจออยากล่องเรือและสัมผัสวิถีชีิวิตชาวบางตะบูนอย่างใกล้ชิดก็สามารถติดต่อได้ที่คุณลุงเปลว
11.00 น. แวะกินข้าวเที่ยงกันที่ ร้านครัวลุงญา บางตะบูน ร้านอาหารเจ้าดังแห่งบางตะบูนที่มีดีตรงวัตถุดิบที่สด ใหม่ และมีคุณภาพ พร้อมเสิร์ฟมาในเมนูอาหารทะเลพื้นบ้านมากมาย อาทิ ก้ามปูใบนึ่ง แกงส้มใบชะคราม เนื้อปูที่แกะให้เป็นคำๆ ซึ่งเราขอคอนเฟิร์มว่าเนื้อหวานอร่อยมาก
13.00 น. ออกเดินทางกันต่อไปยัง โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมผักเบี้ย นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ที่นี่ยังเป็นต้นแบบการบำบัดน้ำเสียโดยธรรมชาติ เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้การดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ช่วยเยียวยาและปกป้องระบบนิเวศชายฝั่งอย่างยั่งยืน
และนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชมนกหลากหลายสายพันธุ์ที่หาชมได้ยากอีกด้วย เรียกว่ามาเที่ยวที่นี่ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินกลับไปพร้อมกันในคราวเดียว โดยโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมผักเบี้ย ตั้งอยู่ที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. สามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลข 032 441264-5
15.00 น. เข้าเช็คอินที่พักกันที่ ไอธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา รีสอร์ทสุดหรูที่ตั้งอยู่ริมทะเลแหลมผักเบี้ย โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งสุดโมเดิร์นหรูหราที่โอบล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ
ในส่วนของห้องพักนั้นมีการตกแต่งอย่างสวยงาม เน้นความสะดวกสบาย พร้อมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเฟอร์นิเจอร์แบบครบครัน หากเพื่อนๆ มองหาที่พักแถวแหลมผักเบี้ยก็สามารถแวะมาใช้บริการกันได้ที่ไอธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ที่ ม.3 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จงเพชรบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 032 478301
18.00 น. มื้อเย็นนี้เราไปเช็คอินกันที่ ร้านอัลปาก้า ร้านอาหารสุดน่ารักที่มีเจ้าอัลปาก้าเป็นตัวชูโรงเรียกลูกค้า ร้านนี้นอกจากจะตกแต่งได้อย่างน่ารักเข้ากับบรรยากาศแล้ว เรื่องของเมนูก็ไม่เป็นสองรองใคร มีเมนูเด็ดๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดปู ยำผักบุ้งทอดกรอบ คอหมูย่างจิ้มแจ่ว หมึกไข่นึ่งมะนาว แซลม่อนจี๊ดจ๊าด ต้มยำกุ้งน้ำข้นมะพร้าวอ่อน ฯลฯ
วันที่ 2
09.00 น. เช้าวันที่สองเราเริ่มต้นทริปด้วยการเดินทางไปยังบ้านลาดเพื่อชมวิธีการทำตาล ของเด็ดของดีเมืองเพชรที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีอาชีพทำสวนตาล มีการนำตาลไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร และขนมต่างๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีการนำเอาใบตาลมาสานเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สวยงาม ซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้ชั้นดีให้กับคนในชุมชนนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจอยากมาชมกรรมวิธีการทำตาลก็มากันได้ชุมชนถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 032 491467 (อบต.ถ้ำรงค์)
11.00 น. แวะกินมื้อเที่ยงกันที่ ร้านพวงเพชร ร้านอาหารชื่อดังแห่งเมืองเพชรบุรีที่ขอบอกว่าใครมาเที่ยวเมืองเพชรบุรีแล้วต้องห้ามพลาด ร้านนี้มีเมนูเด็ดมากมาย อาทิ ปลาดุกทะเลผัดฉ่า ต้มส้มปลากระบอก กรรเชียงปูผัดผงกะหรี่ ผัดโป๊ยเซียน หอยจ้อ ฯลฯ และยังมีเมนูเด็ดๆ มากมาย
อีกทั้งที่ร้านยังใส่ใจในทุกเมนู มีการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก ใครที่สนใจอยากมาลิ้มลองความอร่อยแบบฉบับตำนานต้องมาที่ร้านพวงเพชร ตั้งอยู่ใกล้กับเขาวัง ถ.เพชรเกษม ตงไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี โทนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 032 426753
13.00 น. อิ่มท้องกันแล้วเราไปอิ่มบุญกันต่อที่ วัดมหาธาตุ วัดพระอารามหลวงชั้นตรีที่สำคัญของเมืองเพชรบุรี
ภายในวัดมหาธาตุมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระปรางค์ห้ายอด พระอุโบสถ พระวิหารหลวง พระวิหารน้อย พระพุทธรูป พระระเบียง จิตรกรรมฝาผนัง พิพิธภัณฑ์ผลงานศิลปะปูนปั้น รวมทั้งสถาปัตย์หมู่กุฏิสงฆ์ ซึ่งถือเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก
14.00 น. ปิดท้ายทริปด้วยการช็อปปิ้งของฝากจากเมืองเพชรกันที่ ตลาดเพชรบุรี แหล่งรวบรวมของฝากและอาหารแสนอร่อยมากมายหลายเมนู มีทั้งอาหารทะเลสดๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารทะเล ขนมหวานโบราณที่หากินได้ยาก
และห้ามพลาดแวะร้านข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่ถือเป็นต้นตำรับข้าวแช่แท้ๆ โดยร้านจะอยู่ตรงข้ามสถานีอนามัยในตลาด และยังมีอาหารโบราณสูตรดั้งเดิมอีกหลายร้านที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปลิ้มลองกัน
ใครไปเที่ยวเพชรบุรีแล้วอยากช็อปของฝากถูกใจต้องไปที่ตลาดเพชรบุรี ตั้งอยู่ใกล้กับวัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบุรีหากกำลังมองหาที่พักผ่อนกายใจแบบใกล้ๆ รีบเคลียร์งานกองโตแล้วแบกเป้มาเที่ยวเพชรบุรีด้วยกันเลย